ไม่ว่าจะหอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือเรสซิเด้นท์ คุณคงจะปวดหัวไม่น้อยเลยใช่ไหม กับการตามล่าหาที่พักซักที่ที่ตอบโจทย์โดนใจ บางคนใช้เวลาหลายเดือนในการตามหาที่ที่ดีที่สุด ก็ยังไม่เจอซักที วันนี้ Big Money จึงมีวิธีเลือกห้องพักในกทม. เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่บอกไว้ก่อนว่า ที่นี่ไม่มีที่พักที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีห้องพักที่ดีที่สุด มีแต่วิธีคิดรอบด้านกับการเลือกที่พักให้คุณได้คุ้มค่ามากที่สุด มีงบเท่าไหร่ตั้งไว้ในใจ แล้วมาดูไปพร้อมๆกัน
- ยิ่งใกล้(ออฟฟิศ) ยิ่งดี
หลายคนคงเบื่อเหลือเกินกับปัญหาบ้านไกล รถติด เลิกงานทีกว่าจะถึงบ้านก็เล่นเอาเหนื่อย การมองหาที่พักใกล้ที่ทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่พร้อม เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางและเพิ่มเวลาในการพักผ่อน แต่! บอกไว้เลยว่าที่พักส่วนใหญ่จะถูกจะแพง มักขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งเป็นหลัก ยิ่งอยู่ใกล้ถนนใหญ่เดินทางสะดวกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งราคาสูงมากเท่านั้น ถ้าอยากได้ราคาสบายกระเป๋าลงอีกนิด อาจต้องดูทำเลที่ไกลขึ้นไปอีกหน่อย เช่น อยู่ในซอยลึก ต้องต่อรถ หรือห่างจากตัวเมืองออกไปอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องลองคำนวนดูระหว่างอยู่ไกล ถูกกว่า แต่ค่าเดินทางเพิ่ม หรืออยู่ใกล้ แพงกว่า แต่ไม่มีค่าเดินทาง แบบที่สามารถเดินไปทำงานได้เลย ลองดู..แล้วคุณอาจจะได้คำตอบ
- สภาพแวดล้อม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
แน่นอนว่าการเช่าห้องพัก ต้องอยู่ระยะยาวอย่างต่ำ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ตามสัญญาเช่า ดังนั้นยอมเสียเวลาสักนิด ก่อนตัดสินใจเลือกห้องพัก ไปเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ที่พัก โดยเน้นช่วงเวลาเช้าก่อนไปทำงาน หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน เป็นการจำลองสถานการณ์เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่จริงในอนาคต ซึ่งอาจทำให้เราได้มองเห็นข้อดี-ข้อเสียมากขึ้น เช่น การเผื่อเวลาในการเดินทางออกมาทำงานในช่วงเวลาคับคั่ง กลับดึกซอยเปลี่ยว มีผู้คนพลุกพล่าน หรือมีร้านค้ามากมาย หากตรงกลับไลฟ์สไตล์ ไม่อันตราย หรือลำบากจนเกินไป จะเป็นเหตุผลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- ระบบรักษาความปลอดภัยต้องมี
นอกจากสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ห้องพักส่วนใหญ่ต้องมี ทั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การเข้าออกโดยใช้คีย์การ์ด หรือสแกนลายนิ้วมือ อย่างน้อยคุณก็ไม่ต้องคอยกังวลทั้งทรัพย์สินและความปลอดภัยของตัวคุณเอง นอนหลับสบายไร้กังวลได้เลย
- หาของกินง่าย ใกล้แหล่งอาหาร
เพราะเรามองเห็นปัญหาของที่พักที่ไม่มีร้านข้าว หรือร้านอาหารอยู่รอบๆเลย หากไม่อยากเดินทางออกไปหาของกินไกล จนถึงกับต้องขับรถออกไป หรือสั่งบริการส่งอาหารจากแอพฯดังต่างๆ ซึ่งนั่นถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่ารถ และค่าบริการ ทางที่ดีการเลือกห้องพักที่พอมีร้านค้า หรือร้านอาหารบ้าง ก็จะช่วยให้คุณประหยัดงบได้ไม่น้อยเลย
- เช็คให้ดี อาจไม่ได้มีแค่ค่าห้อง
นอกจากค่าใช้จ่ายต่อเดือนร่วมทั้งค่าห้องพักและค่าเดินทางแล้ว หากคุณมีรถยนต์ส่วนตัวที่ต้องจอดไว้ที่ห้องพักด้วย ก็คำนวนดีๆล่ะ เพราะห้องพักทำเลทองใจกลางเมืองส่วนใหญ่ นอกจากที่จอดรถจะหายากมากแล้ว ห้องพักบางแห่งก็ไม่มีที่จอดรถให้เลย หรือบางแห่งมีพื้นที่จำกัดจำนวนคัน รวมถึงคิดค่าที่จอดรถต่อเดือนเพิ่มจากค่าห้องมาอีก ยิ่งถ้าเป็นประเภทอพาร์ทเม้นท์ หรือเรสซิเด้นท์บางแห่ง จะมีการเก็บค่าส่วนกลางรายเดือนด้วย นี่ยังไม่รวมกับค่าน้ำ ค่าไฟ ที่แต่ละแห่งคิดราคาต่อหน่วยต่างกัน ไหนจะเงินมัดจำและค่าเช่าล่วงหน้าอีกกี่เดือน? งานนี้ต้องคำนวนให้ดี สอบถามข้อมูลให้แม่น และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อความคุ้มค่าที่สุด
- ผู้เช่าดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
มีหลายคำถามสำคัญ ที่หลายคนอาจมองข้าม คือ คำถามเกี่ยวกับผู้เช่าโดยรวมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนห้องพักแต่ละชั้นมีกี่ห้อง? แออัดไปไหมสำหรับคุณ สัดส่วนของผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศหรือไม่? ในบางที่อาจอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาพักหรือไม่ ประมาณกี่ห้อง? ตอนกลางคืนหากน้องๆ ต้องทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ อาจมีเสียงรบกวนบ้าง คุณรับได้ไหม? แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่พักหลายแห่งเค้ามีการคัดกรองผู้เช่าก่อนให้เข้าพัก เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดี สงบสุข ในการอยู่ร่วมกันของผู้เช่านั่นเอง
- ทำใจไว้บ้าง อาจไม่มีห้องตัวอย่างให้ดู
ที่พักหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนทำเลยอดฮิต ห้องไม่เคยว่าง! มีผู้เช่าสลับเข้าออกไม่ขาดสาย เป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นห้องที่เราจะเข้าพักเลย จนกว่าจะถึงวันที่ย้ายเข้าจริงๆ จุดนี้คุณอาจต้องเผื่อใจไว้บ้าง ว่าอาจจะเจอห้องจริงที่สภาพไม่ตรงกับในรูป ห้องอาจจะทรุดโทรมหรือเล็กกว่าความจริง และที่สำคัญคุณอาจจะไม่มีโอกาสได้เลือกทำเลห้องที่ตรงใจ เช่น ห้องที่อยู่ในทิศทางรับลม หรือรับแสง ห้องริม หรือห้องชั้นสูง เป็นต้น
- วางแผนก่อนย้าย มีเงินพร้อม อาจไม่มีห้องว่าง
บางครั้งเจอห้องพักที่ถูกใจ ทำเลดี ราคารับได้ แต่กลับไม่มีห้องว่างในช่วงเวลาที่เราพร้อมเข้าพักแล้วซะงั้น ดังนั้น นอกจากการวางแผน หาข้อมูลให้เป๊ะไว้ก่อนแล้ว ต้องสอบถามห้องว่างด้วยว่าจะมีผู้เช่าเก่าย้ายออกในเดือนใด ในกรณีเช่นนี้ หากทราบเดือนที่สามารถย้ายเข้าได้แล้ว จะต้องมีการชำระค่าจองสิทธื์ไว้ก่อนหรือไม่ ยิ่งกว่านั้นหากไม่มีห้องว่างเลยในช่วง 1 – 2 เดือนที่คุณพร้อมแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อไป? คุณจะเลือกรอห้องว่างเพราะเจอที่ถูกใจแล้ว หรือมองหาที่ใหม่อีกที
Tips..
- ค่าที่พักไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของเงินเดือน
- ควรทำตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรวมทั้งที่พักและค่าเดินทางของแต่ละที่ให้ดีก่อน
- ตั้งธงไว้ในใจถึงสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดจากที่พัก เพื่อกำหนดขอบเขตในการตามหาให้แคบลง และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ต้องการความเงียบสงบคนไม่พลุกพล่าน ต้องการที่จอดรถ ต้องการฟิตเนส ต้องการติดรถไฟฟ้า ฯลฯ
- อยากประหยัดขึ้นอีกนิด ต้องหารูมเมทรู้ใจ